ไมโครโฟน HyperX QuadCast S Black Grey

รีวิว ไมโครโฟน HyperX QuadCast S

สรุป ไมโครโฟน HyperX QuadCast S เหมาะกับใคร ?

ไมโครโฟน HyperX Quadcast S Microphone เป็นไมค์จัดรายการรุ่นพัฒนาจากรุ่นยอดนิยมของ HyperX ที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมมากนักนอกจากไฟ LED RGB 16.8 ล้านสี ที่ทางแบรนด์จัดมาให้เอาใจผู้ใช้งานตำคำเรียกร้อง พร้อมสามารถปรับแต่งได้อิสระผ่าน NGenuity ทำให้ปัญหาเดิมที่ที่ผู้ใช้งานบอกว่าแสงไฟสีแดงที่บังคบเปิดตลอดการใช้งานนั้นบางครั้งน่ารำคาญหมดไป ส่วนการออกรวมไปถึงสเปคภายในนั้นก็ถือว่าให้มาเทียบเท่ากับของเดิมแบบเป๊ะ ๆ ทั้ง Vibration Shock Mount และ Wind Proof แบบ Built-in ในตัว หรือการใช้งานที่สามารถปรับ Polar Pattern ได้มากถึง 4 รูปแบบ เรียกได้ว่ายังคงการออกแบบที่จบในตัวไม่ต้องไปหาอะไรเพิ่ม เอาไว้ได้อย่างดี แต่สำหรับราคานั้นก็ถือว่าขยับขึ้นมาค่อนข้างสูง โดยจะอยู่ที่ 5,990 บาท แลกมากับการใช้งานกับ NGenuity ได้ และมีไฟ LED นั่นเอง 

"ไมค์แคสติ้งที่ดีที่สุด พร้อมไฟ LED RGB"

ดีไซน์ใช้งานง่าย พร้อม Plug 'n' Play

ไมโครโฟน HyperX Quadcast S เป็นไมค์ Condenser ที่ดีไซน์ค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นมือเก่าหรือ มือใหม่ เพราะว่าส่วนประกอบสำคัญ ๆ ของมันไม่ว่าจะเป็น เมาท์กันสั่น หรือฟองน้ำกันลม แบบติดตั้งในตัว โดดเด่นสุด ๆ คือในรุ่น HyperX Quadcast S ยังมาพร้อมกับไฟ LED RGB ในตัว โดยสามารถปรับแต่งได้ 2 พื้นที่  โดยชิ้นส่วนต่าง ๆ อย่างเมาท์กันสั่นและตัวกรองเสียงลมนั้นถูกใส่มาแบบ Built In ติดกับตัวเครื่องแล้วเรียกได้ว่าแกะกล่องมา เสียบสายเชื่อมต่อก็พร้อมใช้งานทันทีแบบ Plug and Play โดยมีการเชื่อมต่อหลักเป็นสาย USB และที่น่าสนใจอีกอย่างคือการควบคุมบนตัวไมโครโฟนที่มี Gain Knob มาให ซึ่งผู้ใชงานจะสามารถเลือกปรับเกนได้อย่างอิสระ แตกต่างจากไมค์หลาย ๆ รุ่นที่ฟิกมาให้แล้วเป็น High หรือ Low

4 รูปแบบการรับเสียง ใคร ๆ ก็ชอบ

ไมโครโฟน HyperX QuadCast S มีรูปแบบการรับเสียงหรือ Polar Pattern อีก 4 รูปแบบให้ปรับใช้งานโดยรูปแบบต่าง ๆ นั้นจะมีการใช้งานอย่างไรก็สามารถดูได้ข้างล่างนี้เลย !

ตัวไมโครโฟนยังสามารถเชื่อมต่อ Output AUX 3.5 สำหรับต่อหูฟังเพื่อมอนิเตอร์เสียงนั่นเอง ส่วนด้านบนของไมโครโฟนนั้นใช้สำหรับ Mute / Unmute ผ่านระบบสัมผัสโดยดูได้จากไฟของตัวไมค์ ส่วนสายเชื่อมต่อของตัวไมค์นั้นก็จะเปลี่ยนมาใช้สาย USB-C ที่มีความเสถียรขึ้นมากกว่าเดิม

รีวิวเสียง

สำหรับแนวเสียงในการรับเสียงของเจ้า HyperX QuadCast S นั้นค่อนข้างเก็บเสียงออกมาได่อบอุ่น เนื้อกลมนุ่มนวล ฟังง่ายลื่นหู เสียงไม่บาดหู ตัวคาแรคเตอร์ของเสียงต่าง ๆ นั้นทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยตัวไมค์ออกแบบมาเพื่องานแคสต์และสตรีมมิ่งเป็นหลักทำให้โดดเด่นที่สุดในเรื่องของการขับเสียงช่วงกลาง อย่างเช่นเสียงพูด หรือเสียงเครื่องดนตรีหลายชนิด ตัวไมค์ยังสามารถกรองเสียงได้ดีผ่านฟองน้ำกันลมในตัวและตัดเสียงรบกวนอย่างพวกเสียงพัดลมได้อย่างยอดเยี่ยม

HyperX QuadCast ทั้ง 2 รุ่นต่างกันอย่างไร ?  

สำหรับ HyperX QuadCast ทั้ง 2 รุ่นนั้นไม่ได้มีความแตกต่างกันในเรื่องสเปคการใช้งานจะแตกต่างกันก็คือส่วนของไฟ LED RGB ที่เพิ่มเข้ามาให้เท่านั้น และมีการเชื่อมต่อหลังตัวไมค์ที่เปลี่ยนจากสาย Mini USB เป็น USB-C แทน โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าไปอ่านเปรียบเทียบการใช้งานของไมค์ Quadcast กับไมโครโฟนตัวอื่น ๆ ได้ผ่านหน้ารีวิวของตัวมันเอง
(> รีวิว HyperX QuadCast)

ตารางเทียบสเปค 

(คลิกที่ภาพสินค้าเพื่อเข้าหน้ารีวิวหลักได้)

	HyperX Quadcast S	Beyerdynamic Fox	AKG Lyra	Blue Yeti Studio
ความละเอียดสูงสุด	16-bit 48 kHz	24-bit 96 kHz	24-bit 192 kHz	16-bit 48 kHz
ตอบสนองความถี่	20 – 20 kHz	20 – 20 kHz	20 – 20 kHz	20 – 20 kHz
รูปแบบการรับเสียง	Omni, Cardioid, Figure-8, Stereo	Cardioid	Omni, Cardioid, Wide Stereo, Tight Stereo	Omni, Cardioid, Figure-8, Stereo
การเชื่อมต่อ	USB (ใช้สาย USB-C to A)	USB	USB	USB
การปรับ Gain	ปรับได้อิสระผ่าน Gain Knob Gain	ปรับได้ 2 ระดับ (สูง-ต่ำ)	ปรับได้อิสระผ่าน Gain Knob Gain	ปรับได้อิสระผ่าน Gain Knob Gain
อื่น ๆ	Built-in Pop filter + Shock Mount, RGB LED	Wind Shield	Built-in Pop filter, Shock Mount, Alberton 10 Lite software	PreSonus Sound Software, iZotope Sound Plug-ins

 

สินค้ารุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ
 

• ไมโครโฟน HyperX QuadCast
• ไมโครโฟน HyperX SoloCast Gaming Microphone